ผู้ป่วยโควิด 19 บางรายจะประสบกับ “กลุ่มอาการหลังโควิด 19” ซึ่งประกอบด้วยอาการเรื้อรังจำนวนมาก เราเรียกสิ่งนี้ว่า “ภาวะหลังโควิด 19” หรือ “ลองโควิด” อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่ผู้ป่วยฟื้นตัวจากการติดเชื้อโควิด 19 แบบเฉียบพลัน หรืออาจเป็นอาการที่เกิดขึ้นตั้งแต่ที่เริ่มป่วยและยังคงไม่หายไป อาการเหล่านี้อาจผันผวนหรือกลับมาอีกเมื่อเวลาผ่านไป ภาวะหลังโควิด 19 สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ติดเชื้อโควิด 19 แม้ว่าจะมีอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการในช่วงแรกก็ตาม
ในบรรดา 200 อาการที่มีการรายงาน อาการที่พบบ่อยที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หายใจไม่อิ่ม สมองล้า และอ่อนเพลีย ส่วนอาการที่พบได้ไม่บ่อยเท่า ได้แก่ เจ็บหน้าอก มีปัญหาในการพูด วิตกกังวลหรือซึมเศร้า ปวดกล้ามเนื้อ มีไข้ สูญเสียการได้กลิ่นและการรู้รสชาติ
รายงานเบื้องต้นระบุว่าผู้ป่วยโควิด 19 ประมาณร้อยละ 10-20 จะยังคงมีอาการเรื้อรังเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนหลังจากการติดเชื้อ SARS-CoV-2 แบบเฉียบพลัน อย่างไรก็ตาม โควิด 19 ยังคงเป็นโรคที่ค่อนข้างใหม่และต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้ทราบว่าผู้ป่วยกลุ่มใดที่เสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบระยะยาวเหล่านี้ และเพื่อให้เข้าใจสาเหตุของภาวะดังกล่าวมากขึ้น
องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด 19 (ทั้งที่ได้รับการยืนยันและสงสัยว่าติด) ควรได้รับการดูแลและติดตามหากพบว่าตนมีอาการเรื้อรัง อาการใหม่ หรืออาการที่เปลี่ยนแปลงไป และควรได้รับการดูแลในหลายมิติ ทั้งจากผู้ให้บริการปฐมภูมิ (บุคลากรทางการแพทย์) ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่จิตสังคม และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
เรายังไม่มีการรักษาเฉพาะสำหรับอาการลองโควิด เพราะเรายังไม่เข้าใจสาเหตุและการก่อตัวของอาการ อย่างไรก็ตาม หากเราเข้าใจกลไกของโรคได้ดีขึ้น เราก็จะสามารถพัฒนาวิธีการรักษาที่ตรงจุดได้
องค์การอนามัยโลกกำลังทำงานอย่างเร่งด่วนกับนักวิจัยเพื่อปรับปรุงระบบการเก็บรวบรวมข้อมูลและการรายงานเกี่ยวกับภาวะหลังโควิด 19 โครงการศึกษาภาวะหลังโควิด 19 (Post-COVID Condition Core Outcomes) จะศึกษาผู้ป่วยที่มีอาการลองโควิดและค้นหาว่ามีปัจจัยใดบ้างที่เราต้องวัดผลเพื่อทำความเข้าใจและรักษาอาการดังกล่าว
ที่มา: องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย
Leave A Comment